ทบ.วอนชาวเน็ตอย่าตกเป็นเครื่องมือทำร้ายชาติ
เดลินิวส์
ทบ.วอนชาวเน็ตอย่าตกเป็นเครื่องมือทำร้ายชาติ
ผอ.ศูนย์ไซเบอร์ทบ. เตือนสติชาวเน็ตอย่าตกเป็นเครื่องมือทำร้ายประเทศ
วอนรัฐเร่งชี้แจง"ซิงเกิ้ล เกตเวย์"ให้ชัดเจน วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2558
เวลา 18:41 น. เมื่อวันที่ 5
ต.ค. ที่ กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.ฤทธี
อินทราวุธ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีทางทหาร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ไซเบอร์กองทัพ
กล่าวถึง กรณีที่ได้มีการโพสต์แจ้งข้อมูลข่าวสารบนโลกโซเชียลระดมพลเชิญชวนชาวเน็ตร่วมปฏิบัติการต่อต้านโครงการซิงเกิ้ล
เกตเวย์ ด้วยการโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐ
หลังจากที่รัฐบาลยังไม่ล้มเลิกและถอนโครงการดังกล่าวออกจากแผนงานโครงการงบประมาณอีกครั้ง
ว่า ปฏิกิริยาการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของชาวเน็ต
และประชาชนทั่วไปที่ผ่านมามีอย่างต่อเนื่อง ถือว่าได้ส่งสัญญาณการคัดค้านโครงกาซิงเกิ้ล
เกตเวย์ ไปยังรัฐบาลอย่างชัดเจนในด้านผลกระทบต่างๆมากมาย
รวมถึงความกังวลในการควบคุมข้อมูลข่าวสารตลอดจนการละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมาย
และรัฐบาลได้มีการพิจารณาทบทวนโครงการดังกล่าว โดยให้ทำการศึกษาผลกระทบต่างๆ
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช..
ได้ให้นโยบายชัดเจนว่า ถ้าไม่ดีและประชาชนไม่เห็นด้วย จะทำไปทำไม
ซึ่งชัดเจนพอสมควรแล้ว จึงไม่ควรนำเอามาเป็นประเด็นเพื่อสร้างกระแสอีก
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่ ซึ่งอยู่กับโลกไซเบอร์และคุ้นเคยกับเรื่องไอทีมานาน
ย่อมมีวุฒิภาวะ และวิจารณญาณที่ดี
มีความเข้าใจรัฐบาลที่ยอมก้าวถอยมาฟังเสียงประชาชน
และไม่ตกเป็นเครื่องมือในการสร้างกระแสกดดันรัฐบาลตามข้อเรียกร้องของคนบางกลุ่ม
จนเกิดผลกระทบต่อประเทศชาติตามมาอีก “หยุดทำร้ายประเทศไทยแผ่นดินของเรา
รวมทั้งหน่วยงานราชการส่วนใหญ่ เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรและเกี่ยวข้องกับโครงการนี้เลย
ประชาชนก็โดนหางเลขเดือดร้อนไปด้วยในด้านการติดต่อสื่อสาร
และการเข้าถึงข้อมูลการบริการประชาชนทางเน็ต
ด้านรัฐบาลก็ควรแสดงจุดยืนและความชัดเจนของโครงการซิงเกิ้ล เกตเวย์
ให้ประชาชนบางกลุ่มที่ยังสับสนมีเข้าใจมากยิ่งขึ้น จะได้ไม่มีใครฉวยโอกาสนำมาเป็นเงื่อนไขในการสร้างกระแสต่อต้านรัฐบาลให้เกิดปัญหาภายในประเทศ
จะได้มีเวลาไปพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน” พล.ต.ฤทธี กล่าว
พล.ต.ฤทธี กล่าวต่อว่า
การรวมพลังของชาวเน็ตที่ผ่านถือว่าเป็นพลังเงียบที่เฉียบขาด ซึ่งหลายประเทศได้มีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านความมั่นคงของชาติกรณีที่เกิดปัญหาระหว่างประเทศ
โดยบางประเทศได้ระดมพลชาวเน็ตทั่วทุกมุมโลกมาช่วยกันรุมถล่มเว็บไซต์ของอีกฝ่ายหนึ่งต่างฝ่ายต่างโจมตีกัน
จนเกิดเป็นสงครามไซเบอร์เมื่อหลายปีก่อน แต่การระดมพลชาวเน็ตเพื่อมารุมถล่มเว็บไซต์ประเทศของตนเอง
ถือเป็นเรื่องแปลก ยกเว้นจะเป็นเรื่องการเมืองซึ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม
เราในฐานะคนในวงการชาวเน็ตด้วยกัน เชื่อว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่มีวุฒิภาวะ มีสติปัญญา
และวิจารณญาณที่ดี รู้ว่า อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ”
-----------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น