วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สมรภูมิเฟซบุ๊กภูมิภาคอาเซียนร้อนระอุ

สมรภูมิเฟซบุ๊กภูมิภาคอาเซียนร้อนระอุ
โดย พลโท ฤทธี  อินทราวุธ
ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงกลาโหม
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และไซเบอร์

ประเด็น Facebook กลายเป็น Talk of the Town กรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า  นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ( Mark Zuckerberg )  ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังจะมาเยือนไทย
ปลายเดือนตุลาคมนี้ และมีกำหนดจะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ในวันที่ 30 ต.ค.60 นั้น ล่าสุดทางเฟซบุ๊กสำนักงานที่สิงคโปร์ ได้ส่งข้อความสั้นๆ มายังสื่อมวลชนในไทย โดยอ้างโฆษกของเฟซบุ๊ก ระบุว่า There are no plans currently for any of our senior leaders to visit Thailand .” : Facebook spokesperson หรือ แปลเป็นไทยว่า “ ผู้บริหารระดับสูงของเฟซบุ๊กยังไม่มีกำหนดการจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในช่วงนี้ ”[1]
เรื่องดังกล่าว กลายเป็นประเด็นทางสื่อต่างๆ และสังคมโซเชียล ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เพราะ ต่างคาดหวังว่า การที่นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ( Mark Zuckerberg )  ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กและผู้บริหารระดับสูงมาพบนายกรัฐมนตรีจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติตามที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงสื่อ[2]
การที่ทาง Facebook ได้ออกมายืนยันว่านายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO Facebook ยังไม่มีแผนมาไทยในช่วงนี้นั้น อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งมาจากการนำเสนอข่าวของสื่อต่างๆในไทย จนทำให้ทางเฟซบุ๊กสิงคโปร์กังวลว่า หากการพบปะเจรจาในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อทางสิงคโปร์โดยตรง เพราะสิงคโปร์ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเครือข่ายเฟซบุ๊กในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมาเฟซบุ๊กกับรัฐบาลไทยนั้นมีการร่วมงานกันมานานแล้ว และนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ( Mark Zuckerberg ) ก็ได้มีแผนมาประเทศไทยจริง แต่เป็นการเดินทางเพื่อคุยกับผู้นำของไทยแบบส่วนตัว ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ไม่อยากเป็นข่าวใหญ่โต ต้องการมาพบนายกฯ เป็นการส่วนตัว และไม่ต้องการให้เป็นข่าวใหญ่โตจนสื่อมารอดักสัมภาษณ์ เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โตจำอาจเป็นสาเหตุให้นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ยกเลิกการเยือนไทยในครั้งนี้
สำหรับประเด็นข้อกังวลของทางเฟซบุ๊กสิงคโปร์เชื่อว่า การพบปะในครั้งนี้ นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ( Mark Zuckerberg ) จะมีการคุยกับรัฐบาลไทยในหลายเรื่อง โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( Eastern Economic Corridor หรือ EEC ) หรือพื้นที่พิเศษ ที่รัฐบาลตั้งใจส่งเสริมการลงทุน
โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีในเมืองใหม่ และมีกฎระเบียบที่เอื้อต่อการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติ ซึ่งทางเฟซบุ๊กก็น่าสนใจจะร่วมลงทุนในโครงการนี้เช่นกัน เพราะที่ตั้งของประเทศไทยเป็น Landmark ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ และจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กของไทยอยู่ในลำดับที่ 8 ของโลก มีจำนวนมากถึง 46 ล้านยูสเซอร์[3] ซึ่งมีการนำเฟซบุ๊กมาใช้เป็นช่องทางธุรกิจการค้าในหลายๆด้าน รวมถึงแนวคิดในการที่จะย้ายศูนย์กลางเครือข่ายเฟซบุ๊กของภูมิภาคนี้มาตั้งอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์อย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ สมรภูมิเฟซบุ๊กภูมิภาคอาเซียน ร้อนระอุ !!!
-------------------------------------------
อ้างอิง :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น